RUAY 9

เลขเด็ด “ตาจันดี ยายสี” ให้โชคลุงขายลอตเตอรี่ ถูกหวย 15 ใบ รับเงิน 3 แสนบาท

ลุงขายลอตเตอรี่มาขอโชค “ตาจันดี ยายสี” ไม่ผิดหวัง “เลขเด็ด” บาตรน้ำมนต์ พาถูกหวยรางวัลที่ 5 จำนวน 15 ใบ ได้เงิน 3 แสนบาท พร้อมมาแก้บนถวายเงินร่วมสร้างโบสถ์

วันที่ 21 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาย กล่ำเอม อายุ 59 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่อยู่หน้าห้างแห่งหนึ่งในสาขาสุโขทัย ได้เดินทางมาที่วัดพลายชุมพล พร้อมครอบครัว เพื่อนำเงินสด จำนวน 100,000 บาท ที่ได้มาจากการถูกรางวัลที่ 5 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ก.ค. 2563 จำนวน 15 ใบ ถวายให้กับ พระปลัดวัฒนา สิริสุวัณโณ รักษาการเจ้าอาวาส สมทบทุนในการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ แทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม และเป็นการแก้บนให้แก่ ตาจันดี-ยายสี ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเมื่อกว่า 700 ปี

นายสาย เล่าว่า เมื่อประมาณกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มาร่วมพิธียกเสาเอกการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ของวัดพลายชุมพล ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน หลังเสร็จพิธีก็เข้าไปกราบไหว้ที่ศาลตาจันดี-ยายสี ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัด โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า หากมีโชคมีลาภจะถวายเงินทำบุญก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ พร้อมกับเพ่งดูหยดน้ำตาเทียนในบาตรน้ำมนต์หน้าศาล ปรากฏว่าเห็นเลข 58 ชัดเจน ด้วยความที่ตนมีอาชีพขายลอตเตอรี่ จึงเก็บลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 ก.ค. 2563 ที่มีเลขท้าย 58 ไว้เอง 1 ชุด จำนวน 15 ใบ

ทั้งนี้ ปรากฏว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวหมายเลข 841358 ถูกรางวัลที่ 5 ได้เงินมา 300,000 บาท คงเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของศาลตายายแน่นอน วันนี้จึงพาครอบครัวนำเงินสด จำนวน 100,000 บาท ที่แบ่งจากการถูกรางวัล มาถวายให้กับทางวัดเพื่อร่วมสร้างโบสถ์ด้วย

ทางด้าน พระปลัดวัฒนา สิริสุวัณโณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพลายชุมพล กล่าวว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลตาจันดี-ยายสี เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ชาวบ้านเมื่อเข้ามาทำบุญที่วัดแล้วก็มักจะไปกราบไหว้บนบานขอโชคลาภกัน เมื่อสมความปรารถนา ก็จะกลับมาทำบุญพร้อมนำปัจจัยถวายให้วัด อาตมาคิดว่า ตา-ยาย คงอยากให้โบสถ์หลังใหม่สร้างเสร็จในเร็ววัน จึงบันดาลให้ชาวบ้านมีโชค

อย่างไรก็ตาม สำหรับเลขเด็ดน้ำตาเทียนในบาตรน้ำมนต์หน้าศาล ตาจันดี-ยายสี ยังคงมีชาวบ้านและบรรดาคอหวยหลั่งไหลเข้าไปดูกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเลข 0, 1, 2, 3, 8 โดยไม่พลาดจดเลขดังกล่าวไว้เสี่ยงโชคงวดต่อไป

ข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์

Exit mobile version