สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย กุมารทอง ของขลังยอดนิยม ถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเราจะไปที่วัดไหน ก็มักจะมีผู้คนเห็นกุมารทองอยู่ในทุกวัดเสมอ และ อีกหนึ่งเทรนด์ที่เรารู้จักกัน ก็คือ การเลี้ยงกุมารทอง แต่ไม่ใช่ว่าใครก็เลี้ยงได้ และ ไม่ใช่ว่าเด็กคนไหนที่ตาย ก็สามารถนำมาทำได้ ต้องมีความเฉพาะตัวเช่นกัน
หากพูดถึงเครื่องรางของขลัง สิ่งที่เราคิดถึงเป็นอันดับแรก คงไม่พ้น กุมารทอง แล้วเหตุใด ทำไมกุมารทองถึงได้มีหลายคนนิยมนำมาเลี้ยง หรือ มักจะนำมาบูชามากเป็นพิเศษ แล้วสิ่งๆ นี้ เป็นวิชาอาคมประเภทใด ศาสตร์ขาวหรือศาสตร์มืด เลี้ยงอย่างไรจึงจะดีต่อตนเอง เรามีคำตอบมาให้ทุกท่านแล้ว
กำเนิดกุมารทอง
กุมารทอง เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์เกี่ยวกับวิญญาณ ผีไทย เกิดจากการเลี้ยงภูตผีไว้ใช้งาน โดย ‘กุมารทอง’ จะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย ส่วน ‘โหงพราย’ จะเป็นวิญญาณของเด็กผู้หญิง ซึ่งกุมารทองนั้นเกิดจาก เด็กที่ตายในท้องแม่ หรือ ตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะพาวิญญาณเด็กไปเลี้ยงไว้เป็นลูก ประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพเด็กออกมาจากท้องแม่ จากนั้น ก็นำมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนฟ้าสว่าง แล้วจึงลงรักปิดทองทั้งตัว จึงเป็นชื่อของ ‘กุมารทอง’
เมื่อเวลาผ่านไป สภาพสังคมและวัฒนธรรมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพจริงๆ ได้ จึงใช้วิธีการสร้างกุมารทองจาก ดินเจ็ดป่าช้าง ไม้รักซ้อน ไม้มะยม ตลอดไปจนถึงโลหะ แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4 และ เรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิด เป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา
ปัจจุบัน นิยมสร้างรูปร่างเป็นเด็กนุ่งโจงกระเบน ไว้ผมจุก เชื่อว่า เป็นเสมือนวิญญาณเด็กในรูปกุมารนั้น ใครที่เอาไปเลี้ยง ต้องดูแลให้เหมือนกับลูกของตัวเองจริงๆ ต้องเซ่นข้าว เซ่นน้ำ เซ่นขนม มีการเรียกกินข้าว ว่ากันว่า หากดูแลกุมารทองดี จะช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของและครอบครัวให้พ้นจากภัยอันตราย ทำมาค้าขึ้น ช่วยเตือนภัยล่วงหน้า และคอยเฝ้าระวังไม่ให้ศัตรูย่างกรายเข้ามาในตัวบ้านได้
เรามักจะได้ยินชื่อของกุมารทองกันบ่อยๆ จากวรรณคดีไทย ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากอย่าง ขุนช้างขุนแผน บางทีก็เรียกเป็นลูกกรอกบ้าง กุมารทองบ้าง และอีกหนึ่งเครื่องรางที่คล้ายกับกุมารทอง นั่นก็คือ ‘รักยม’ โดยมีผู้นิยมนำมาบูชาไม่น้อยไปกว่ากุมารทองเลยทีเดียว
ตำนานกุมารทองเพชรฆาต
เราสามารถแบ่งกุมารทองออกได้เป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ กุมารทองสายดำ และ กุมารทองสายขาว
กุมารทองสายดำ
กุมารทองประเภทนี้ มีนิสัยดุร้ายเป็นอย่างมาก ใช้ในเรื่องของการต่อสู้ หรือ ทำร้ายศัตรู ไม่มีความปรานีแต่อย่างใด แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
- กุมารทองเพชรมั่น ใช้ในการเฝ้าบ้านฝ้าเรือน ฆ่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาบุกรุกบ้าน สิ่งที่จะปราบกุมารทองเพชรมั่นได้นั้น คือ วัวธนู ที่ทำมาจากไม้ไผ่หามผี สามารถเฝ้าได้เพียงในอนาคตของบ้านเท่านั้น
- กุมารทองเพชรคง มีการใช้งานเหมือนกับกุมารทองเพชรมั่น แต่มีฤทธิ์เดชมากกว่า และ ยังสามารถไล่ล่าศัตรูนอกเขตพื้นที่บ้านได้ด้วย สิ่งเดียวที่จะเอาชนะกุมารทองเพชรคงได้นั้น ก็คือ วัวธนูทองแดง
- กุมารทองเพชรสูญ มีฤทธิ์ในการทำให้คนกลายเป็นบ้า
- กุมารทองเพชรดับ เป็นเสมือนกับเพชฌฆาตเลือดเย็น สามารถหักคอศัตรูได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไม่ต่างอะไรจากนักฆ่ามืออาชีพ นิยมเล่นในนักไสยศาสตร์มนต์ดำที่เก่งกล้ามากๆ หรือในแถบเขมรและอิสลามเท่านั้น
กุมารทองสายขาว
กุมารทองสายขาว เป็นกุมารทองที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วไป และ คนส่วนใหญ่ในสังคม มีไว้เฝ้าบ้าน เรียกลูกค้า เป็นเมตตามหานิยม ไม่มีชื่อเรียกเฉพาะ เจ้าของกุมารทองสามารถตั้งชื่อให้กุมารทองได้เอง ต้องเป็นชื่อที่มีความเป็นมงคล กุมารทองประเภทนี้ ไม่มีนิสัยดุร้าย สามารถเลี้ยงได้ทุกคน เรียกได้ว่า เป็นขั้วบวกกับขั้วลบกับกุมารข้างต้นเลย
หากพูดถึงวัด หรือ กุมารทองที่ดังๆ ก็คงหนีไม่พ้น ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการให้เลขเด็ด ขออะไรก็สมหวังดังปรารถนา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีจุดเด่นอย่างกุมารทอง ที่ชื่อว่า ‘ไอ้ไข่’ อยู่ สายหวย สายมูเตลู หรือ แม้กระทั่งคนทั่วไป ก็รู้จักกับไอ้ไข่เป็นอย่างดี
การเลี้ยงกุมารทอง
วิธีเลี้ยงกุมารทอง
- ทำการขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่ๆ เราอยู่ ด้วยการจุดธูป 16 ดอก บริเวณกลางแจ้ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ขออนุญาตเจ้าที่ให้ช่วยเปิดทางให้กุมารทองที่นำมาด้วยได้เดินทางเข้าออกสถานที่แห่งนี้ได้โดยสะดวก
- จุดธูป 5 ดอก อัญเชิญกุมารทองเข้าที่พัก แล้วบอกว่ากุมารชื่ออะไร ให้มาช่วยดูแลรักษาบ้าน คุ้มครองคนในบ้าน ทำการค้ารุ่งเรือง
- เซ่นไหว้กุมารทองด้วยอาหารคาวหวาน ผลไม้ น้ำหวาน นม ขนมต่างๆ ตามความสะดวก
ข้อห้ามในการเลี้ยงกุมารทอง
- ห้ามตั้งวางบูชากุมารทองสูงกว่าหรือเสมอพระและเทพองค์ต่างๆ ควรตั้งวางให้อยู่ต่ำกว่า หรือ ถ้าเป็นไปได้ ให้แยกอยู่คนละพื้นที่จะดีที่สุด
- ห้ามตั้งกุมารทองไว้ที่ปลายเตียง ปลายเท้าชี้ไปหา หรือ วางในที่ต่ำที่สามารถยกเท้าเดินข้ามไปข้ามมาได้
- ห้ามตั้งกุมารทองหันหน้าเข้าห้องน้ำ หรือ หันไปทิศที่ดูไม่เหมาะสม
รวมคาถาบูชากุมารทอง
คาถากุมารทองนั้น มีมากมายหลายอย่างให้ได้สวดกัน ซึ่งแต่ละคาถา ก็แล้วแต่เจ้าของของกุมารทองสามารถนำไปสวดใช้ได้เลยตามใจชอบ
คาถาเรียกกุมารทอง
โอม พะนิจิ เจรุนิ พันธัง เอหิ มะมะ
คาถากุมารทองมหาวีโร
นามะรูปัง จิตตัง วิญญานัง จิตและวิญญาณ ของกุมารทองดูดรก จงบังเกิดที่นี่
สัพพะบูชา มหาลาภัง ภวันตุเม (7 จบ)
คาถาถวายอาหารหรือรางวัลให้กุมารทอง
มามะ ปะริภุญชันตุ จะมหาภูตา อาคัจฉายะ อาคัจฉามิ เอหิมะมะ มามา
คาถาเพิ่มพลังให้กุมารทอง
นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ จะ ภะ กะ สะ จิเจรุนิ
นะออแอ โมออแอ พุธออแอ ธาออแอ ยะออแอ
มะอะอุ พุทธะสังมิ อิติกุมาโร ประสิทธิเมฯ
พุทธคุณ : เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย ดีนักแลฯ
คาถากุมารเรียกโชคลาภ
จิเจรุนิจิตัง เจตะสิกัง รูปังกุมาโรวา มะมามามา นะมะพะธะ มะอะอุ
ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ คือ talisman เป็นวัตถุโบราณในรูปแบบบต่างๆ เช่น หนังสัตว์ ตระกรุต เชื่อว่าสามารถป้องกันภัยได้ สามารถป้องกันการฟันแทงไม่เข้า
ขุนช้างขุนแผน คือ
วรรณคดีไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นิทานพื้นบ้าน ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ปัจจุบันได้นำมาทำเป็นหนังละครและได้รับความนิยมจากคนไทย
สรุป
อยากได้ของขลังมาคุ้มครองสักอย่าง ก็ต้องบูชา กุมารทอง เลย ของขลังยอดนิยมในประเทศไทย มีผู้บูชากุมารทองเป็นจำนวนมาก ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เลื่องลือ แม้แต่วัดต่างๆ ก็ยังมีรูปปั้นของกุมารทองไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้บูชา แต่เราก็ต้องเลือกบูชากุมารทองสายขาวเท่านั้น หากเลือกกุมารทองสายดำ แล้วเราไม่ได้มีวิชาอาคมแต่อย่างใด ก็จะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต หรือ อาจเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้