Site icon RUAY 9

ตำนานเทพีแห่งโชคภาพ ‘นางกวัก’ หญิงสาวผู้ได้พรจากพระอรหันต์

ตำนาน นางกวัก

เทพีแห่งโชคลาภ ของไทย นางกวัก ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักท่านแน่นอน โดยเฉพาะ คนที่ทำมาค้าขาย เรามักจะเห็นนางกวักตามร้านค้าต่างๆ เชื่อกันว่า ช่วยเรียกเงิน เรียกทอง เรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดี สามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้านทั่วไป แม้ว่าเราจะรู้จักกับ นางกวัก แต่ก็มีน้อยคนนัก ที่รู้ว่า นางกวักคือใคร มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ทำไมถึงเชื่อว่านางกวักถึงให้โชคให้ลาภได้ สำหรับคำถามเหล่านั้น Ruay 9 มีคำตอบให้กับทุกคำถามแน่นอน

นางกวัก

ตำนานนางกวัก

นางกวัก มีชื่อจริงว่า ‘สุภาวดี’ บิดา ชื่อ ‘สุจิตพราพหณ์’ มารดา ชื่อ ‘สุมณฑา’ เกิดที่เมือง มัจฉิกาสัณฑ์ ครอบครัวทำอาชีพค้าขาย นางเป็นลูกศิษย์ของ พระมหากัสสะปะ และพระสิวลี ซึ่งครั้งหนึ่งนางได้มีโอกาสไปฟังธรรมกับพระพุทธเจ้า และพอได้ฟังธรรมเสร็จ นางได้ตั้งจิอธิษฐานขอพรว่า “ขอให้เจริญรุ่งเรือง มีเงินทองไหลมาเทมา จากการค้าขาย สมดังปรารถนาด้วยเถิด”

ซึ่งการที่นางขอพรในลักษณะนั่นก้เพราะครอบครัวทำอาชีพค้าขายนั่นเอง และหลังจากนั้ไม่นาน พรที่นางขอหลังฟังธรรมจากพระพุทะเจ้าแล้วเสร็จ การค้าขายของครอบครัวนางก็ร่ำรวยมหาศาล มีผู้คนนับหน้าถือตานับแต่นั้นมา

เมื่อนางสุภาวดีได้เสียชีวิตลง ชาวบ้านก็ทำการปั้นรูปของนางสุภาวดีไว้บูชา เพื่อให้มีโชคมีลาภ ค้าขายร่ำรวยให้มีเงินทองไหลมาเทมา การค้ารุ่งเรือง เหมือนกับครอบครัวนางสุภาวดีบ้าง กระทั่งเกิดเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้รูปปั้นของนางสุภาวดีถูกเรียกว่านางกวักนั่นก็เพราะ การที่มือของนางยกขึ้นในลักษณะกวักคนเข้ามาในร้านนั่นเอง

พระมหากัสสะปะ

เป็นพระอรหันต์ หนึ่งในสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นเอตทัคคะ ที่ทรงยกย่องและให้ถือเป็นแบบอย่างใน ด้านผู้ทรงธุดงค์และสรรเสริญคุณแห่งธุดงค์ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ท่านได้เป็นประธานในการสังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธ

พระสีวลี

เรียกได้ว่า เป็นพระอรหันต์แห่งโชคลาภเลยก็ว่าได้ เดิมทีเป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ ท่านได้ออกบวชในสำนักพระสารีบุตร บรรลุเป็นพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศา และยังได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก

คาถาหัวใจสีวลี

หนึ่งในคาถาของพระสีวลี เชื่อว่า กราบบูชาพระสิวลีแล้วชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เนื่องเพราะพระสิวลี เป็น 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวก หรือศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า

ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชานางกวัก

ความเชื่อเกี่ยวกับ ‘นางกวัก’ พัฒนามาจากการนับถือผีผู้หญิงของไทย เหมือนกับการนับถือพระแม่โพสพ กล่าวคือ นางกวัก เป็นผีที่พัฒนามาเป็นเทพ ช่วยกวักเงินกวักทองให้กับผู้ที่บูชา มีการทำรูปหล่อปั้นนางกวักครั้งแรก ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนใหญ่จะมีขนาดสำหรับบูชา สร้างจากโลหะ, ดินเผา หรือ สกัดจากไม้

นอกจากนี้ นางกวัก เหมือนเป็นนัยยะในการเรียกลูกค้า ต้องวางตั้งบูชาไว้ที่หน้าร้าน นิยมสร้างจากพระอาจารย์เกจิชื่อดังหลายสำนัก มีมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน ช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง สามารถหาดูได้ตามวัดต่าง ๆ หรือจะเป็นร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ แล้วนำไปให้เกจิอาจารย์ที่นับถือ ทำการปลุกเสกพุทธคุณขึ้น

ลักษณะของนางกวัก

นางกวักตามคติไทย มีลักษณะการแต่งกายและท่าทาง ดังนี้

  • สวมชุดไทยโบราณ ตกแต่งเครื่องประดับตามแบบอย่างธรรมเนียมไทย คือ ผมปีกหรือดอกกระทุ่ม ห่มผ้าแถบ นุ่งโจงกระเบน
  • นั่งด้วยท่าทางเรียบร้อย นั่งพับเพียบ มือซ้ายวางลงแตะข้างลำตัว หรือ วางบนตัว บางรูปปั้น อาจจะถือถุงเงิน ที่มีการลง คาถาหัวใจสีวลี (พระสงฆ์ ผู้เป็นเลิศ ด้านโชคลาภ)
  • ส่วนมือขวา ยกขึ้นระดับไหล่ ทำท่ากวักมือ หรือ เรียกให้เข้ามาหา ซึ่งมือขวาที่ยกขึ้นสูงกว่าปาก หมายถึง ‘กินไม่หมด’ หากต่ำกว่าปาก จะหมายความว่า ‘กินไม่พอ’
  • หากตามคติชาวล้านนา จะเป็นผู้หญิงสวมเครื่องแต่งกายพื้นบ้านล้านนา รูปร่างสมส่วน ยกมือซ้ายขึ้นกวัก โดยยกสูงขึ้นเหนือใบหู สะพายถุงเงินถุงทองไว้ด้านหลัง

ในอดีตมักทำนางกวักขนาดเล็ก ซุกไว้ตามแผง ไม่ให้เกะกะหน้าร้าน ปัจจุบันได้มีการแต่งตัวให้กับนางกวักมากยิ่งขึ้น เช่น รูปร่างอวบอ้วน ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ แต่งกายแบบในละคร ยกมือกวักทั้ง 2 ข้าง สวมแว่นกันแดด เป็นต้น

การบูชานางกวัก

ของบูชานางกวัก

  1. น้ำเขียว หรือ น้ำแดง
  2. พวงมาลัยสด
  3. น้ำเปล่า

คาถาบูชานางกวัก

(ตั้ง นะโม 3 จบ) (แล้วว่าตาม)

โอม มหาสิทธิโชคอุดม โอม ปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่าแม่นางกวัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก อยู่ทุกถ้วนหน้า เอหิมามะมะ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ จะค้าขายก็ขอให้เป็นเศรษฐี หนึ่งปีให้เป็นพ่อค้าสำเภาทอง จะค้าเงินขอให้เงินเข้ามากอง จะค้าทองขอให้ไหลมาเทมาเต็มบ้านเต็มเรือน จะค้าขายสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ซื้อง่ายขายคล่อง ขอให้ซื้อง่ายขายดี ขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี

อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ นะมะอะอุ นะชาลีติ อิกะวิติ พุทธะสังมิ ทุสะมะนิ อิธะคะมะ จะพะกะสะ นาสังสิโม สุมะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะเมตตา โมขายดี พุทธไม่ต่อ ธาซื้อดี ยะใจดี มิใจอ่อน รักพุทโธ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง สิทธิโภคา สิทธิพะลา สิทธิจะมหาเดชา นะชาลีติ เอหิจงมา พุทธะสังมิ นิมามะมามา มาช่วยกันค้า มาช่วยกันขาย

กวักเอาเงินมา กวักเอาทองมา กวักเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ หน้าที่การงาน ผู้คน ชื่อเสียงเกียรติยศ ข้าทาสหญิงชายมา มาด้วยนะโมพุทธายะ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง พุทธังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ธัมมังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สังฆังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เตชะสุเนมะภูจะนาวิเวอิติ นะเยปะรังยุตเต ขอจงนำเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ มาสู่ในสถานที่นี้ด้วย เทอญ

พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา พุทธังคุ้ม ธัมมังคุ้ม สังฆังคุ้ม เอหิพุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง

สรุป

อยากร่ำรวย มีเงินทองไหลมาเทมา ไม่ขาดสาย ต้องบูชา นางกวัก เทพีแห่งโชคลาภ ตามคติไทย ผู้ซึ่งได้รับพรจาก พระอรหันต์ อย่าง พระมหากัสสะปะ และพระสิวลี ลักษณะของนางกวัก มักจะสวมชุดไทย นั่งพับเพียบ รูปร่างสวยงาม กวักด้วยมือข้างเดียว หรือ สองข้างก็ได้ จะพบเห็นได้บ่อย สำหรับผู้ที่ทำการค้าขาย ช่วยในการเรียกทรัพย์ จะดียิ่งขึ้น หากบูชาอย่างถูกวิธี ให้ของบูชานางกวักเป็นประจำ ไม่ขออะไรที่เกินความเป็นจริง และสวดมนต์เพื่อบูชานางกวัก จะทำให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Line Today

บทความแนะนำ

Exit mobile version